วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2552

การขอโทษ และการขอการอภัย...

เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 30/10/09
ยอห์น. 8:1-59

เรื่องหญิงที่ถูกจับฐานล่วงประเวณี คงมีหลายๆคนที่ได้ยินอยู่แล้ว
มีเรื่องตลกเกี่ยวกับเรื่องนี้มาเล่าให้ฟัง

เมื่อพระเยซูทรงทอดพระเนตรเห็นฝูงชนวิ่งไล่หญิงคนหนึ่ง
และพยายามจะขว้างหินใส่นาง พระองค์ตรัสถามพวกเขาว่า
“เกิดอะไรขึ้นหรือนี่”
ชายคนหนึ่งในฝูงชนตะโกนตอบว่า
“หญิงคนนี้ล่วงประเวณี และกฎหมายบอกให้เรา
ต้องเอาหินขว้างนางให้ตาย”

พระองค์ตรัสต่อพวกเขาว่า
“เดี๋ยวก่อน จงให้ผู้ที่ไม่มีบาปเลย ขว้างหินใส่นางก่อนเป็นคนแรก”

ทันใดนั้น ก็มีหินก้อนโตร่วงหล่นลงมาจากฟ้าสวรรค์
โดนหัวหญิงนั้นล้มลง

พระเยซูเงยพระพักตร์สู่สวรรค์ ตรัสว่า
“โธ่ ไม่เอาน่าพระบิดา นี่ข้าพระองค์กำลังพยายาม
สอนบทเรียนพวกเขาอยู่นะเนี่ย”

555 เรื่องตลกเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องตลกไร้สาระ แต่เขากำลังต้องการสื่อว่า

พระเจ้าของเราช่างมีอารมณ์ขัน และพระองค์เป็นองค์บริสุทธิ์ ไม่มีบาป :):)

หันกลับมามองเเราๆกันเองดีกว่า มนุษย์ผู้มีบาป ไม่มีใครแม้เพียงสักคนที่กล้าที่จะขว้างหินใส่ผู้หญิงคนนั้น
นั่นก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เรารู้ว่า เรารู้ตัวอยู่เสมอว่าเราเป็นผู้ผิดบาป
แต่สิ่งที่ถามต่อมาคือ เรารู้ว่าเราทำผิด เราทำบาป แต่เรายังเลือกที่จะทำมันซ้ำอีกต่อไปไหม?
(ยน. 8:11)
นางนั้นทูลว่า "พระองค์เจ้าข้า ไม่มีผู้ใดเลย" และพระเยซูตรัสกับนางว่า "เราก็ไม่เอาโทษเจ้าเหมือนกัน จงไปเถิด และอย่าทำบาปอีก"

พระเจ้าเป็นพระเจ้าที่ใจดี และเมตตา พระองค์ให้อภัยเราเสมอ...
แต่การให้อภัยเสมอ กลับทำให้เราได้ใจ
เราเลือกที่จะกลับไปทำผิดอีกซ้ำๆ เพราะคิดแต่เพียงว่า พระเจ้าจะให้อภัย...

มาม๊าหยีไม่เคยสอนให้หยีพูดขอโทษกับมาม๊าเลย ตั้งแต่เด็ก
ทุกครั้งที่ทำผิด ทะเลาะกัน คำพูดที่มาม๊าจะพูดเสมอ คือ
"หยี่ไม่ต้องมาขอโทษมาม๊า ถ้าขอโทษแล้วมันก็มีครั้งหน้าอีก
มันไร้ประโยชน์หยี่เข้าใจมาม๊ามั้ย? มาม๊าไม่ต้องการคำพูด
มาม๊าต้องการให้หยี่เปลี่ยนการกระทำ ไม่ต้องพูด อย่าทำผิดอีก"
ดังนั้น น้อยมากที่การทะเลาะระหว่างหยี่กับมาม๊าจะมีคำขอโทษหลุดปากมาจากคนใดคนหนึ่ง
ดูแล้วมันแย่ใช่มั้ย ที่ครอบครัวหยี่เป็นอย่างนี้...
แต่การเลี้ยงแบบมาม๊าหยี่ มันทำให้หยี่รู้จักที่จะปรับปรุงตัว และแก้ไข
ทำตัวหยี่เองให้ดีขึ้น เพื่อพิสูจน์ว่า หยี่รักมาม๊าจริงๆ และหยี่รู้สึกผิดจริงๆ มากพอที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมหยี่เอง
นี่คือแม่ของหยี...

และเช่นเดียวกัน สำหรับพระเจ้า... เราขอโทษ พระเจ้าดีกว่ามาม๊าหยี่ ที่พระเจ้าให้อภัยเสมอ
แต่เราก็ต้องเปลี่ยนตัวเอง พิสูจน์ตัวเองให้พระเจ้าเห็นเช่นกัน
เพราะหยี่ว่า สิ่งที่พระเจ้าต้องการจากเราไม่ใช่แค่คำพูดที่วยงาม การอธิษฐาน ทูลขออภัยที่สละสลวย
ไม่ใช่เพียงการรู้ว่าเราผิด ไม่ใช่แค่การสำนึกผิด
แต่สำคัญที่เราต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อแก้ไข และยอมรับจริงๆว่าเราผิด และเราจะไม่ทำผิดนั้นอีก...

อีกเรื่องคือ "พ่อของท่านคือมาร"

เรื่องนี้เหมือนมาสนองเรื่องความจริงแท้ เมื่อวานเลย :):)

พระเยซูบอกเราว่า ถ้าเราไม่เชื่อฟังพระองค์ ก็เหมือนไม่เชื่อฟังพระบิดา และไม่อยากจะทำตามพระบิดาของเรา


(ยน. 8:44)
ท่านทั้งหลายมาจากพ่อของท่านคือพญามาร และท่านใคร่จะทำตามความปรารถนาของพ่อท่าน มันเป็นฆาตกรตั้งแต่เดิมมา และมิได้ตั้งอยู่ในความจริง เพราะความจริงมิได้อยู่ในมัน เมื่อมันพูดมุสามันก็พูดตามสันดานของมันเอง เพราะมันเป็นผู้มุสา และเป็นพ่อของการมุสา

(ยน. 8:47)
ผู้ที่มาจากพระเจ้าก็ย่อมฟังพระวจนะของพระเจ้า เหตุฉะนั้นท่านจึงไม่ฟัง เพราะท่านทั้งหลายมิได้มาจากพระเจ้า
สะดุ้งอยู่เหมือนกันนะ พระคำข้อนี้น่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น