วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อำนาจหน้าที่ของพระบุตร

เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 27/10/09
ยอห์น. 5:1-47

พระเจ้าให้พระเยซูลงมาเพื่อกระทำการของพระองค์ ไม่ใช่มาเพื่อกระทำการตามอำเภอใจของพระองค์
ดังนั้นไม่แปลกที่พระเยซูจะบอกกับเราว่า พระองค์จะทำเฉพาะสิ่งที่พระเจ้าต้องการทั้งนั้น
และในขณะเดียวกัน พระเจ้าก็ทรงให้สิทธิ์กับพระเยซู ให้ทำสิ่งพระองค์ทำได้
รวมถึงการพิพากษาที่ พระเจ้าได้มอบสิทธิ์ให้แก่พระเยซู

ดังนั้น เราจึงต้องเชื่อลูก เหมือนเชื่อพ่อ....
ให้เกียรติลูก เหมือนให้เกียรติพ่อ...
เพราะในข้อ 24 พระเยซูได้บอกว่า

(ยน. 5:24)
เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าผู้ใดฟังคำของเรา และวางใจในพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา ผู้นั้นก็มีชีวิตนิรันดร์และไม่ถูกพิพากษา แต่ได้ผ่านพ้นความตายไปสู่ชีวิตแล้ว

(ยน. 5:28-29)
การฟื้นขึ้นมาสองแบบอย่าประหลาดใจในข้อนี้เลย เพราะใกล้จะถึงเวลาที่บรรดาผู้ที่อยู่ในอุโมงค์ฝังศพจะได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ และจะได้ออกมา คนทั้งหลายที่ได้ประพฤติดีก็ฟื้นขึ้นสู่ชีวิต และคนทั้งหลายที่ได้ประพฤติชั่วก็จะฟื้นขึ้นสู่การพิพากษา
นอกจากนี้ในยอห์นบทที่ 5 ยังมีเรื่อง พยานของพระเยซู

(ยน. 5:30)
บรรดาพยานของพระเยซูว่าทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าเราจะทำสิ่งใดตามอำเภอใจไม่ ได้ เราได้ยินอย่างไร เราก็พิพากษาอย่างนั้น และการพิพากษาของเราก็ยุติธรรม เพราะเรามิได้มุ่งที่จะทำตามใจของเราเอง แต่ตามพระประสงค์ของพระบิดาผู้ทรงใช้เรามา

พระเยซูทรงมีพยานถึงเรื่องพระองค์เยอะอยู่แล้ว แล้วแต่ว่าเราจะเชื่อหรือเปล่า?
ไม่ว่าจะเป็ฯโมเสส ยอห์นผู้ให้บััพติศมา พระเจ้าเอง พระคัมภีร์
สิ่งที่บอกว่าพระองค์เป็นพระบุตรมีอยู่มากมายอยู่แล้ว

แล้ว? มีเหตุผลอื่นอันใดอีกหรือ? ที่เราจะไม่เชื่อในตัวพระเยซู?

ขอพระเจ้าเสริมกำลัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น