วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ภาษารัก 5 ภาษา

เฝ้าเดี่ยวประจำวันที่ 4/11/09
ยอห์น. 13:1-38

ความรักของคนเรามีการแสดงออกได้หลายรูปแบบ
Gary Chapman ได้กล่าวไว้่ว่า ภาษาีรักมี 5 รูปแบบ ซึ่งแต่ละคนมีต่างกัน

1. ภาษาพูด
คนพวกนี้ชอบที่จะได้ยิน หรือรับฟังคำพูด คำชมเชยต่างๆ เพื่อทำให้เค้ารู้ว่า เรารักเค้า
แต่ไม่ใช่ว่าพูดพร่ำเพรื่อนะ มันจะเอือมและดูไม่จริงใจ
ต้องดูเวลาและสถานการณ์ให้เหมาะสมด้วย
แค่คำชมเชยเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เค้ามีความสุขได้แล้ว

เช่น "คุณเก่งมาก" "คุณดูสวยมากในชุดนั้น"
"คุณต้องเป็นช่างทำขนมที่เยี่ยมที่สุด คุกกี้ข้าวโอ๊ตของคุณอร่อยมาก"

2. ภาษาสัมผัส
สำหรับคนกลุ่มที่สองนี้ มักจะชอบที่จะได้รับการสัมผัส ไม่ต้องพูดอะไรมาก
คนกลุ่มนี้ก็จะรู้สึกแล้ว ว่าคุณรักเค้่า การสัมผัสมีค่ากับเค้ามากกว่าสิ่งอื่นใด

เช่น การกุมมือนิ่งๆ การตบหลังเบาๆ การลูบหัว หรือว่าการสวมกอด เป็นต้น

3. ภาษาของขวัญ

คนกลุ่มนี้ไม่ต้องการอะไร แต่ต้องการที่จะได้รับเป็นวัตถุ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาต้องการ
เค้าเห็นว่าการให้ของขวัญ หรือการได้รับของขวัญเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงซึ่งความรัก
ดังนั้น เมื่อเค้ารักใคร สิ่งของต่างๆจะถูกซื้อมาให้คนๆนั้นเพื่อเป็นสิ่งแทนใจ แทนความรู้สึกของเขา

ของขวัญเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องมีทุกวัน ทุกสัปดาห์ คนกลุ่มนี้ไม่ต้องการของขวัญราคาแพง
พวกเค้าไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้น นอกจากอยากได้สิ่งที่เป็นรูปธรรมเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักของเขานั่นเอง

4. ภาษาการรับใช้
สำหรับการรับใช้นี้ ให้เข้าใจได้โดยง่ายคือการได้ Take Care เอาใจใส่คนที่เค้ารัก
ในขณะเดียวกัน เขาก็ต้องการได้รับการเอาใจใส่ด้วยเพื่อเป็นการแสดงออกถึงซึ่งความรัก
ทำสิ่งละอันพันละน้อยให้เค้า เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่คนอื่นอาจมองข้าม
ไม่ว่าจะเป็นการอาสาช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ หรือแม้แต่งานบ้านเล็กๆน้อยๆ การล้างจาน ทิ้งขยะ
แม้แต่การที่เรารู้ว่าเค้าเหนื่อยแล้วเอาน้ำมาให้กิน นั่นก็เป็นภาษาการรับใช้แล้ว
แม้แต่การที่เราให้คำแนะนำ หรือคำปรึกษากับเค้า นี่ก็เป็นหนึ่งในภาษาการรับใช้ด้วยเหมือนกัน

5. ภาษาการใช้เวลา
สำหรับคนกลุ่มนี้ สิ่งที่เค้าต้องการคือ "เวลา" การใช้เวลาร่วมกัน มีกิจกรรมต่างๆร่วมกัน
ได้เจอหน้ากัน การที่คุณอยู่ข้างๆเขาในเวลาที่ไม่มีใคร
ไม่ใช่ว่า การดูถ่ายมอดกีฬาด้วยกัน แต่ก็ต้องให้ความสนใจคนที่นั่งข้างๆด้วย
ไม่ใช่ว่าสนใจแต่กีฬาที่ถ่ายทอดสดอยู่ ไม่สนใจคนที่นั่งข้างๆคุณเลย
ไอ้อย่างนั้น จะเรียกว่าการใช้เวลาร่วมกันก็จะกระไรอยู่

(อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.fivelovelanguages.com/learn.html)


แล้วสิ่งที่เราได้จากการเฝ้าเดี่ยววันนี้เกี่ยวอะไรกับบทเรียนที่ได้จากพี่ไลฟ์จากการไปค่าย?

เพราะว่าในยอห์นบทนี้มีการแสดงออกความรักของพระเยซูถึง แบบด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็นการล้างเท้าของสาวกด้วยพระองค์เอง ซึ่งเป็น"ภาษาแห่งการรับใช้"
เพื่อแสดงออกว่าพระองค์รักพวกเค้ามากเพียงใด
พระองค์ยอมถ่อม และยอมที่จะล้างเท้าให้กับพวกสาวกด้้วยมือของพระองค์เอง

(ยน. 13:4-5)
พระองค์ทรงลุกขึ้นจากการรับประทานอาหารเย็น ทรงถอดฉลองพระองค์ออกวางไว้ และทรงเอาผ้าเช็ดตัวคาดเอวพระองค์ไว้ แล้วก็ทรงเทน้ำลงในอ่าง และทรงตั้งต้นเอาน้ำล้างเท้าของพวกสาวก และเช็ดด้วยผ้าที่ทรงคาดเอวไว้นั้น


นอกจากนี้ยังมี "ภาษาแห่งการใช้เวลา" โดยการทานอาหารร่วมกับสาวกทั้งหลาย การได้นั่งคุยกัน
การที่พระองค์ได้สอนคำสอนต่างๆแก่เหล่าสาวกในระหว่างการับประทานอาหาร
พระองค์ไม่ได้แค่ใช้เวลาทานอาหารร่วมกันเท่านั้น
แต่พระองค์ยังใช้่เวลาร่วมกันนี้ ในการสนใจคู่สนทนา และใช้บทสนทนาที่กระชับความสัมพันธ์ ความรักระหว่างพระองค์กับเหล่าสาวกอีกด้วย

(ยน. 13:1-2)
ก่อนเทศกาลปัสกาเมื่อพระเยซูทรงทราบว่า ถึงเวลาแล้วที่พระองค์จะทรงจากโลกนี้ไปหาพระบิดา พระองค์ทรงรักพวกของพระองค์ซึ่งอยู่ในโลกนี้ พระองค์ทรงรักเขาจนถึงที่สุด ทรงล้างเท้าของพวกสาวกขณะเมื่อรับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว (พญามารได้ดลใจยูดาสอิสคาริโอท บุตรชายของซีโมน ให้ทรยศพระองค์ )


"ภาษาพูด" ในภาษารักที่พระเยซูทรงใช้อันนี้ ในพระคัมภีร์ยอห์นได้บอกไว้อย่างชัดเจนที่สุด

(ยน. 13:34)
เราให้บัญญัติใหม่ไว้แก่เจ้าทั้งหลายคือให้เจ้ารักซึ่งกันและกัน เรารักเจ้าทั้งหลายมาแล้วอย่างไร เจ้าจงรักกันและกันด้วยอย่างนั้น


"ภาษาสัมผัส" ที่พระเยซูทรงใช้ อาจจะเห็นได้ไม่ชัดในยอห์นบทนี้
แต่เราก็เห็นได้จากการทีี่มีสาวกของพระองค์ได้เอนกายอยู่ใกล้พระองค์
นี่ก็เป็นอีกภาษาสัมผัสหนึ่งที่พระเยซูได้ใช้แสดงออกแก่เหล่าสาวก

(ยน. 13:23)
มีสาวกคนหนึ่งที่พระเยซูทรงรักได้เอนกายอยู่ที่พระทรวงของพระเยซู


และสุดท้าย "ภาษาของขวัญ" สำหรับอันนี้ไม่รู้จะ Quote ยังไง
แต่เป็นสิ่งที่เรารู้ๆกันอยู่แล้วว่า พระเยซูเป็นของขวัญพิเศษที่พระเจ้าได้ส่งมาให้เรา
พระองค์ทรงเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และประเสริฐที่สุด ในบรรดาของขวัญทั้งหมดที่เราเคยได้รับมาทั้งชีวิต

(ยน. 3:16)
เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่ได้วางใจใมนพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์


สิ่งที่เราต้องทำตามคือ การตอบสนองต่อความรักของพระองค์
โดยผ่้านการแสดงออกทั้ง 5 :):)
ไม่ว่าจะเป็นทางคำพูด ที่เราต้องให้เกียรติ และสรรเสริญพระเจ้าตลอดเวลา พูดอะไรต้องคิดถึงพระเจ้าด้วย อย่าพูดโดยไม่คิด และทำร้ายคนอื่น
ทางการสัมผัส การกระทำที่เราแสดงออก ต้องทำให้สมพระเกียรติของพระเจ้า ให้พระเจ้าพอพระทัย
การใช้เวลา เราเคยใช้เวลาเพื่อพระองค์มากแค่ไหน เฝ้าเเดี่ยว? อธิษฐาน? วันๆหนึ่งเรามีเวลาให้พระองค์มากแค่ไหนกัน
การรับใ้ช้้ เรามีเวลาในการรับใช้พระเจ้ามากแค่ไหน สนใจพระเจ้ามากแค่ไหน?
ภาษาของขวัญ การถวายสิบลด การกระทำที่เป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า การร่วมสามัคคีธรรมเพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์ การเล่นดนตรีนมัสการ เหล่านี้ เราคิดว่าเป็นของขวัญที่เป็นรูปธรรมที่เราสามารถทำให้พระเจ้าได้ เป็นของขวัญให้แก่พระองค์

และสิ่งที่จำเป็นสำหรับเราที่สุด คือ การถ่อมใจ และถ่อมตัว เหมือนที่พระองค์ทรงถ่อม

หากว่าเรารักพระเจ้าอย่างสุดจิตสุดใจจริงๆ ทุกอย่างเราจะยอมทำให้พระเจ้าได้
แล้วชีวิตเราก็จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น พระเจ้าจะอวยพระพรให้แก่เรา

4 ความคิดเห็น: