วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553

"การบริจาคเลือดครั้งยิ่งใหญ่"

"การบริจาคเลือดครั้งยิ่งใหญ่"

by Loukyie S. Tiya on Wednesday, June 9, 2010 at 10:45pm

การบริจาคเลือด

เมื่อเร็วๆนี้ ในช่วงระยะเวลาที่เกิดปัญหาการเมืองในกรุงเทพฯ
มีการเรียกรับบริจาคเลือดจากหลายๆโรงพยาบาล
ไม่ว่าจะเป็นข่าวจริง หรือข่าวลือ
ที่ทั้งโีรงพยาบาล และสภากาชาดต่างรับรองคนที่มาบริจาคเลือดอย่างไม่หวาดไม่ไหว
จนถึงขนาดว่า... ขอร้องให้ไปบริจาคที่อื่น

อะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้คนไปบริจาคเลือดเยอะขนาดนั้น?

นั่นก็เพราะว่า คนเราต่างรู้ว่า "เลือด" มีความสำคัญกับชีวิตมากเพียงไร
ถ้าคนเราขาดเลือด เพราะเสียเลือดมากไป ก็อาจถึงแก่ความตายได้
แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าผู้ให้ ให้เลือดมากไป ผู้ให้ ก็อาจจะตายได้เหมือนกัน
(สังเกตได้จากคนที่ไปบริจาคเลือดแล้วรีบลุก วูบไหมคะ?)

"เลือด"ที่จะให้ได้ ต้องเป็นเลือดที่ดี และไร้ตำหนิ
ถ้าคนเคยไปก้จะพบคำว่า เลือดจม หรือ เลือดลอย
ดังนั้นจึงมีข้อห้ามมากมายสำหรับคนที่จะไปบริจาคเลือด
ห้ามนู่น ห้ามนี่ ให้นอนตามเวลาที่กำหนด เพื่อให้ได้เลือดที่ดีที่สุด

เลือด จึงเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
...
...
...
การเสียสละสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย เค้าว่ากันว่า เป็นการทำบุญที่เยี่ยมอีกทางหนึ่ง


เมื่อลองกลับมานั่งคิดดีๆแล้ว
หากเปรียบเทียบกับการบริจาคเลือดแล้ว คงไม่มีการบริจาคเลือดครั้งไหนที่ยิ่งใหญ่กว่าการบริจาคเลือดของชายคนหนึ่ง
"ชายคนนี้"ได้หลั่งเลือดเพื่อเรา
"ชายคนนี้"ที่ยอมเสียสละ "เลือดที่ไร้ตำหนิ" "เลือดที่บริสุทธิ์" เพื่อเรา
"ชายคนนี้"ได้ทรงไถ่บาปเราด้วย "เลือดที่ไร้ตำหนิ"

พระเยซูสมควรได้รับเหรียญการบริจาคเลือด มากกว่าผู้ใดทั้งปวง
เพราะพระองค์ทรงกระทำตัวให้ปราศจากมลทิน เพื่อให้พระองค์สะอาดที่สุด
สะอาดเข้าไปแม้แต่เลือดทุกหยดของพระเยซู
พระองค์"เตรียมพระองค์"เอง เพื่อที่จะสละเลือด ล้างความบาปของเราออกไป
พระองค์บริสุทธิ์ ปราศจากมลทินใดๆ
แต่พระองค์ก็ทรงยอมหลั่งเลือดที่มีค่า เพื่อให้มนุษย์ทุกคนที่หันหนีจากพระเจ้า
ได้กลับคืนดีกับพระองค์

เลือดของผู้ที่ไม่มีมลทินได้ชำระเราให้พ้นจากมลทิน

พระองค์ไม่ได้คำนึงถึงว่า เหตุใดพระองค์ถึงต้องสูญเสียมากขนาดนั้น
เพื่อมนุษย์ที่ทำบาป เพื่อมนุษย์ที่ตายจากพระเจ้า จะได้เป็นขึ้นมาอีกครั้ง

แต่พระองค์ทรงเต็มใจที่จะยอมสละเลือดนั้น แม้ว่ามันจะต้องมากแค่ไหน
ไม่ใช่เพียงเท่านั้น พระองค์ยังต้องทนทุกข์ทรมาน
ถูกโบยตี เหยียดหยาม และกระทำทารุณต่างๆนานา
และสุดท้าย พระองค์ต้องตายบนกางเขน

แต่ด้วยโลหิตของพระองค์ และอำนาจของพระเจ้า
พระองค์ทรงเป็นขึ้นมาใหม่ และชนะความตาย
เพื่อประกาศชัยชนะของพระเจ้า ที่มีฤทธิ์อำนาจเหนือมาร

เลือดที่พระองค์ทรงหลั่ง เป็นอีกหนึ่งศาสตราวุธที่นำไปสู่ชัยชนะเหนือพวกมาร


เพราะว่าเลือด คือ ชีวิต...
ดังนั้น ให้เรามีชีวิตอยู่ ให้สมกับที่พระองค์ต้องหลั่งเลือดเพื่อเรา
เพราะพระองค์ทรงแลกสิ่งที่มีค่ากับเรา...
ขอให้เรารักพระองค์....

ขอบคุณพระองค์เหลือเกิน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น